4 ข้อ ที่นักวิ่งควรรู้! เมื่อฝึกแบบ Crosstraining

ออกกำลังกาย

เมื่อคุณเป็นนักวิ่ง แน่นอนคุณต้องการวิ่ง แต่บางครั้งการวิ่งนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากสำหรับการ ออกกำลังกาย การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน หรือการฝึกความแข็งแรง แต่ถ้าคุณไม่ชอบเข้ายิม หละก็ คุณอาจจะต้องเริ่มคิดแล้วว่า อาจจะต้องมีการผสมผสานการฝึกซ้อมของคุณ มากกว่าที่จะฝึกซ้อมวิ่งเพียงอย่างเดียว ทั้งหมดนั้นก็เพื่อทำให้คุณ แข็งแรงขึ้น วิ่งได้รวดเร็วขึ้น และมีสมรรถภาพแข็งแรง มากกว่าเดิม และนี่เป็นสิ่งที่นักวิ่ง ควรจะรวมโปรแกรมการฝึกแบบผสมผสาน Cross training เข้ากับโปรแกรมการฝึกซ้อมของคุณ

1. ฝึกเหมือนนักกีฬา

ถ้าคุณต้องการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายเหมือนนักกีฬา คุณก็จะต้องฝึกโปรแกรมเหมือนกับเขาด้วย ซึ่งไม่ได้เหมือนซะทีเดียว การฝึกเหมือนนักกีฬาหมายความว่า ให้ทำในสิ่งที่มากกว่าการวิ่งเพียงอย่างเดียว ถ้าคุณต้องการจะเป็นนักวิ่ง คุณจะต้องทำสิ่งอื่นๆ ที่จะเป็นผลดีต่อร่างกายของคุณด้วย เช่น การเพิ่มความอ่อนตัว การพัฒนาระบบหัวใจและไหลเวียนโลหิต หรือ การฝึกเพื่อพัฒนาความแข็งแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความสามารถเพิ่มขึ้นและป้องกันความเบื่อหน่ายที่จะเกิดขึ้นกับคุณ ถ้าหากคุณซ้อมวิ่งเพียงอย่างเดียว การฝึกแบบผสมผสานจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และเป็นการฝึกให้กล้ามเนื้อและข้อต่อของคุณมีการเคลื่อนไหว ในมุมต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไปจากการเคลื่อนไหวจากการวิ่งเพียงอย่างเดียว

2. อย่ารอที่จะมีโปรแกรมการฝึกแบบผสมผสานมาถึง

หลายคนอาจจะเริ่มการฝึกแบบผสมผสาน Cross Training เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ ถ้าคุณได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถวิ่งได้ แต่คุณต้องการจะรักษาระดับสมรรถภาพของคุณ คุณอาจจะใช้การฝึกแบบผสมผสาน บี ใต่หลังจากนั้นคุณอาจจะไม่ได้ใช้อย่างเป็นประจำ หรือ เลิกใช้มัน แต่ถ้าปกติมีการว่ายน้ำหรือปั่นจักรยานอยู่แล้ว เราลองมาฝึกให้เกิดประโยชน์กันดู เช่น เราลองใช้โปรแกรมการฝึกเพื่อพัฒนาความอดทน ในว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน หรือาจจะหากิจกรรมอื่นๆ ทำเช่น การฝึกความแข็งแรง การเต้นแอโรบิก เข้าคลาสสปินนิ่งบ้าง เริ่มตอนนี้แล้วจะทำให้การวิ่งของคุณสนุกขึ้นเยอะเลยครับ

Image result for cross training

 

3. มีโปรแกรมให้เลือกฝึกหรือ ออกกำลังกาย มากมาย

ผมแนะนำกิจกรรมการปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำ เพราะมันเหมือนกับการจำลองการวิ่ง หรือการฝึกแบบผสมผสานอย่างอื่นๆเช่น การฝึกด้วยเครื่องเดินวงรี หรือ ลู่วิ่งที่ไร้แรงโน้มถ่วง นอกจากนรี้เรายังมีกิจกรรมมากมายเช่น สปินนิ่ง การปั่นจักรยานกลางแจ้ง  โยคะ พิลาทิส หรือ คลาส ออกกำลังกาย พวก Group Exercise โดยหลักสำคัญคือ ความหลากหลายของโปรแกรม แต่คุณก็ยังคงให้ความสำคัญกับการวิ่งเป็นหลัก โดยการฝึก แบบผสมผสาน Crosstraining อาจจะใช้เวลา เพียงแค่ ร้อยละ 20 ของโปรแกรมการฝึกของคุณ ในการฝึก เราอาจจะมีการใช้เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อทำให้การฝึกของคุณตรงเป้าเพิ่มมากขึ้น

Image result for cross training

 

4. พยายามให้โปรแกรมมีความหนักที่หลากหลาย

บางคนจะคิดว่าการฝึกแบบผสมผสานนั้น ต้องเป็นโปรแกรม ออกกำลังกาย ที่มีความหนักต่ำๆ เพียงอย่างเดียว แต่ไม่ใช่เช่นนั้น เราควรมีการผสมผสาน ทั้งความหนักต่ำ และความหนักสูงๆ เข้าด้วยกัน จะได้ผลดีกว่า

สิ่งสำคัญสำหรับการฝึกแบบผสมผสาน กับ โปรแกรมการฝึกซ้อมวิ่งของคุณ คือ คุณจะต้องวางแผนด้วยเช่นกัน เพื่อประสิทธิภาพในการฝึก มีวันซ้อมและมีวันพักให้สัมพันธ์กัน จัดโปรแกรมให้มีความหลากหลายและผสมผสานกัน ถ้าคุณยังมีการฝึกอย่างหนัก และ ฝึกแบบผสมผสานที่หนักตามไปด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่คุณอาจจะเกิดสภาวะการฝึกเกิน Overtraining ได้เช่นกัน ดังนั้น การวางแผนจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก

สนใจติดต่อสอบถามปัญหา เรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา เพิ่มเติมได้ที่

โทร : +66-97-2971795
E-mail : [email protected]
FB : VNSPTH
Tw : Vinasport_THA