7 เทคนิคสำหรับไตรกีฬาแรกของคุณ

บางทีคุณอาจจะวิ่งแค่ 5K หรือ คุณจะขี่จักรยานแล้วต้องการที่จะว่ายน้ำหรือว่า วิ่งด้วย ดังนั้น คุณจะต้องไม่ฝึกแค่ ว่ายน้ำ วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือวิ่งเท่านั้น  แต่คุณจะต้องทำทั้งสามอย่างไปด้วย และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนจนสมบูรณ์

ในแต่ละอย่าง การก้าวข้ามเส้นชัยนั้นจะต้องเกิดจากทั้งการว่ายน้ำ (เวทสูท) จักรยาน (หมวกกันน็อค) และ วิ่ง (รองเท้าวิ่ง) ที่จะส่งคุณไปถึงเส้นชัยขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ที่คุณตัดสินใจที่จะเป็นนักไตรกีฬาตั้งแต่วันนี้

            พร้อมแล้วสำหรับการผจญภัยที่สุดยอด และ เป็นความท้าทายสำหรับร่างกายของคุณเอง รวมทั้งการที่จะเพิ่มทักษะทางจิตใจ ของคุณ กับสิ่งที่ท้าทายตลอดเส้นทาง คุณอาจจะคิดว่าเขาทำได้ คุณก็ทำได้ เช่นกัน แต่มันมีอะไรที่มันมากกว่านั้น ก่อนที่คุณจะกระโดดลงไปว่ายน้ำ หรือ คลิปรองเท้าของคุณเข้ากับจักรยาน แม้กระทั่งผูกเชือกรองเท้าเพื่อเตรียมตัววิ่ง วันนี้ คริสโตเฟอร์ เบเกอร์ ไอร่อนแมนสามสมัย และ NYC-Based Coach จะมาแนะนำเกี่ยวกับเทคนิค ที่จะทำให้คุณพิชิตไตรกีฬากันนะครับ เริ่มกันเลย

  1. อย่าเดินคนเดียว

อย่าลองทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับไตรกีฬา คุณจะต้องมีโค้ชส่วนตัวของคุณ สำหรับไตรกีฬาแรกของคุณ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการที่คุณจะต้องรวมสามกีฬาเข้าด้วยกันนั้น ไม่ใช่การลองผิดลองถูก เพราะจะทำให้คุณเสียเวลา และ มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ โค้ชหรือผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คำปรึกษาทั้งการทดสอบสมรรถภาพ การวางแผนการฝึกซ้อม เพราะบางครั้งคุณอาจจะไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

  1. หาประสบการณ์ทันที

ถ้าคุณมีความสนใจเกี่ยวกับไตรกีฬา หรือบางทีคุณอาจจจะมีการ ฝึก ว่ายน้ำ,ปั่นจักรยาน หรือ วิ่งอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือ การเพิ่มประสบการณ์ ในเกมไตรกีฬา นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะไตรกีฬานอกจากต้องมีความแข็งแรงของขา ของระบบหัวใจและหายใจแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การมีจิตใจที่เข้มแข็ง Mind Games

เบเกอร์แนะนำว่า ถ้าคุณเป็นมือใหม่สำหรับว่ายน้ำ ลองสมัครอีเวนต์การแข่งขันจำพวก Open Water ดู เพื่อเป็นการทดสอบการฝึกซ้อมของคุณ และนำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจะทำให้การว่ายน้ำของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือถ้าหากคุณมือใหม่สำหรับการปั่นจักรยาน ลองหาอีเวนต์การขี่จักรยานเป็นเครื่องทดสอบตัวคุณเอง สิ่งเหล่านี้ จะเพิ่มประสบการณ์ให้กับคุณเป็นอย่างมาก เพื่อเตรียมพร้อมสู่ไตรกีฬาแรกของคุณ

  1. พยายามลดจุดด้อยของคุณ

บางครั้งคุณอาจจะเป็นนักกว่ายน้ำระดับมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่เคยที่จะวิ่งสักไมลล์นึง ตอนเกรดห้า หรือบางทีคุณอาจจะเชี่ยวชาญการวิ่งมาราธอน แต่ยังไม่เคยขี่จักรยานประเภทถนน ความท้าทายของไตรกีฬาก็คือ การเรียนรู้ที่จะปรับตัวสำหรับทั้งสามอย่าง ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเชี่ยวชาญในแต่ละไอเท็ม แต่หมายความว่า พยายามที่จะสร้างจุดเด่นและลบจุดด้อยของตัวเองให้ได้มากที่สุดในทั้งสามองค์ประกอบของไตรกีฬา ให้สมดุลกัน มันเป็นการยากสำหรับการเริ่มต้น แต่นักไตรกีฬาแต่ละคนก็จะมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป เช่น ถ้าหากคุณอยู่ในที่ที่มีข้อจำกัดในด้านการฝึกซ้อมจักรยาน คุณอาจจะต้องฝึกการขี่บนเทรนเนอร์เกือบตลอดทั้งฤดูกาล แต่ส่งนั้นสามารถเพิ่มความสามารถทางจิตใจในการฝึกซ้อมของคุณได้ ดังนั้นพยายามค้นหาจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองให้เจอและพยายามลดจุดอ่อนของตัวเองให้ได้มากที่สุด

  1. ความซ้ำซากจำเจ  กิจวัตรเป็นภูเขาของความสำเร็จ

“ ความเอาจริงเอาจัง ก็ยังไม่ใช่มืออาชีพของนักไตรกีฬา ความอดทนเป็นสิ่งจำเป็นแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด” 

      สำหรับการพัฒนาความสามารถของร่างกาย แต่มันคือ การักษาสมดุลของการฝึกซ้อม ระหว่างสามองค์ประกอบของไตรกีฬา ในครั้งเดียว และยังคงต้องอดทนกับการงานของคุณ สังคม ครอบครัว วิถีชีวิต แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ยังต้องมีความจำเป็นสำหรับอุปกรณ์ที่คุณหมายปอง เช่น จักรยานใหม่ คุณจะต้องตั้งกิจวัตรของคุณ เบเกอร์บอกว่า โดยปกติมนุษย์เราจะมีการวางแผนกิจวัตรเป็นประจำอย่าแล้ว เช่น ถ้าคุณมีการว่างแผนที่จะฝึกว่ายน้ำ วันจันทร์ พุธ ศุกร์ ซึ่งเป็นแผนที่ง่ายอยู่แล้ว บวกเขากับ คุณต้องการที่จะวางตารางให้ลงตัวสำหรับการทำงาน หรือ ถ้าคุณมีกิจกรรมเป็นประจำเช่น ถ้าคุณต้องไปดูเกมการแข่งขันฟุตบอลหรือต้องมีการไปรับประทานอาหารกับครอบครัว คุณก็ควรจะต้องหลีเลี่ยงกิจกรรมเช่นการวิ่งเป็นเวลานานๆ ในวันนั้นๆ – การจัดตารางและการรักษาสมดุลจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก สิ่งสำคัญสำหรับการฝึกซ้อม อาจจะไม่ใช่การฝึกซ้อมเพียงอย่างเดียว แต่การให้ความสำคัญกับกิจกรรมต่างๆที่เป็นการฟื้นสภาพ ทั้งร่างกายและจิตใจก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การพักผ่อนที่เพียงพอ จะทำให้สมรรถภาพของคุณก้าวกระโดด

  1. ปริมาณการฝึกซ้อมเป็นเรื่องที่ดี แต่คุณภาพสำคัญกว่า

ไม่มีความเหนื่อย และ แผนการฝึกไตรกีฬา จะมีประสิทธิภาพกับนักกีฬาทุกคน ไม่ใช่การวางอัตราส่วนระหว่าง ว่ายน้ำ/จักรยาน/วิ่ง  สำหรับนักกีฬาบางคน ผมแนะนำการฝึกปริมาณมากซึ่งรวมถึง สองเซสชั่นต่อวัน หรือ สามถึงสี่เซสชั่นต่อสัปดาห์ แต่ถ้าคุณลงแข่งในระยะ โอลิมปิก ไตรกีฬา หรือ สปรินท์ สิ่งนั้นมันคือมากจนเกินไปสำหรับคุณ การฝึกหนักไม่ได้ช่วยให้คุณพัฒนาได้เร็ว แต่การฝึกที่มีประสิทธิภาพต่างหากที่จะทำให้คุณพัฒนาความสามารถของคุณได้อย่างรวดเร็ว — ความแตกต่างระหว่างบุคคล นำมาซึ่งแผนการซ้อมระหว่างบุคคล ประเภท ระยะเวลา ความสามารถของตัวคุณ จะเป็นตัวแปรที่สำคัญในการออกแบบโปรแกรม

สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงก็คือ นักกีฬานั้นจะมีความสามารถ จุดเด่น จุดด้อย ที่แตกต่างกันในแต่ละคน และมีเหตุผลเพียงสามข้อ คือ ว่ายน้ำ/จักรยาน/วิ่ง สิ่งไหนไม่ดี แก้ไขสิ่งนั้นก่อนนั่นคือการปรับปรุงแผนการฝึกซ้อมที่เราจะต้องบรรลุให้ได้ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ข้อจำกัดสำหรับแต่ละคน คือสิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงคุณภาพของแผนการฝึกซ้อม มากกว่าปริมาณ ถ้าบางคนมีพรสวรรค์สำหรับจักรยาน แต่วิ่งได้ไม่ดี ผมจะโฟกัสที่การวิ่ง ก่อน

  1. ค้นหาแผนการฝึกซ้อมที่เหมาะกับตัวคุณ

สิ่งที่สำคัญสำหรับการหาแผนการฝึกซ้อมสำหรับตัวคุณก็คือ มันยาวนานพอหรือไม่ และคุณสามารถเพิ่มปริมาณ และความหนัก ในแผนของคุณโดยที่ไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บแต่ต้องไม่ฝึกซ้อมยาวนานจนคุณเบื่อและเริ่มหมดไฟ ในการฝึกซ้อม

สิ่งที่สุดยอดก็คือ ถ้าคุณไม่ยึดตามแผนการฝึกซ้อมของคุณ ผลอาจจะออกได้ทั้ง ฝึกได้ไม่ดี และ เละตอนแข่งขัน แต่ถ้าคุณทำตามแผนการฝึกซ้อมอย่างเคร่งครัดและฟังเสียงร่างกายตนเอง คุณจะรู้สึกได้ถึงผลของการแข่งขันที่ดี — ระเบียบวินัย จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการที่คุณจะปฏิบัติได้ตามแผนการฝึกซ้อม

  1. ค่อยเป็นค่อยไป และสนุกกับมัน

ถ้านี่คือไตรกีฬาแรกของคุณ และคุณกำลังตื่นเต้น แต่ไม่ควรจะตื่นเต้นจนมากเกินไปหรือ มุ่งมั่นที่จะก้าวไปให้เร็วเกินไป แต่จงค่อยๆ ไปและต้องสนุกสนานกับมัน การที่นำทั้งสามกีฬา ว่ายน้ำ จักรยาน และวิ่งมารวมกัน มันอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่ถ้าหากคุณมีการฝึกซ้อม ไม่ว่าจะเป็นการ ถอดเวทสูท การเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จะช่วยให้คุณลดเวลาในช่วงเปลี่ยนกีฬาลง

แต่ถ้าหากคุณมัวแต่ใช้เวลาในการถอดเวทสูท เป็นเวลาเกือบสิบนาที อย่าปล่อยให้สิ่งเหล่านี้มาบั่นทอนอารมณ์ความรู้สึก หัวเราะ และสนุกสนานไปกับมัน ถือว่าเป็นประสบการณ์หนึ่งกับการไตรกีฬาแรกของคุณ และทุกคนก็เคยประสบแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น

บทความอื่นๆ

CHRISTOPHER BAKER

Christopher Baker is a three-time Ironman and distance runner. He began running competitively in 2008, and has since completed more than 100 races, including a 1:20.48 half marathon PR, a 2:51.37 marathon PR, and a 10:27.47 Ironman personal best.

Christopher Baker