Review:Polar Vantage V

สวัสดีครับหลังจากที่รอมานาน สำหรับ รีวิว โพลาร์ Vantage V มาวันนี้คลอดเสียทีนะครับกับรีวิวของเราทำไมรีวิว ถึงออกวันนี้หน่ะหรอครับ ก็เพราะวันนี้เป็นวันที่โพลาร์ออก UpdatedFirmware

ตัวล่าสุดสำหรับ Vantage VPolar ปล่อยออกมาวันนี้ ออกมานั่นแหละครับ หลังจากที่ปล่อยออกมาให้เก็บข้อมูลและปรับแต่งกันจนStable มาพักใหญ่ เรามาดูรายละเอียดกันเลยนะครับ

PolarVantage V เป็นนาฬิกาสำหรับ Multisport คือ รองรับการฝึกซ้อมได้หลายหลายรูปแบบนะครับซึ่งเป็นการเปลี่ยนดีไซน์ไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เราจะเคยเห็นในรุ่น Vantage ก่อนหน้านี้มักจะเป็นหน้าจอเหลี่ยมเสียส่วนใหญ่ เท่าที่ผมจำได้ โพลาร์หน้าจอกลมมีเพียงรุ่นเดียวนะครับ คือรุ่น Polar Weight management ซึ่งเป็นซีรีส์แรกของโพลาร์ที่มีหน้าจอกลม ออกมาเกือบสิบกว่าปี เห็นจะได้ สมัยนั้นหน้าจอเป็นเฉพาะ ขาวดำ Dot Matrix ครับ  สำหรับ Polar รุ่น VantageV นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่เอาจริงเอาจังกับการฝึกซ้อมนะครับไม่ใช่เพียงแค่คุณออกไปวิ่ง ไปปั่นแล้วก็เก็บข้อมูลของแต่ละเซสชั่นออกมานะครับแต่โพลาร์ได้ไปหยิบเอาคอนเซปต์เรื่อง Athletes Load Consensus ซึ่งเป็นข้อตกลงที่กลุ่มยุโรปทำขึ้นมาเพราะจริงๆแล้ว ร่างกายของนักกีฬา มันไม่ใช่มีแค่โหลดของการฝึกซ้อมเท่านั้นแต่ในแต่ละวันนักกีฬาแต่ละคนก็ผ่านสถานการณ์ที่แตกต่างกันซึ่งโหลดจริงๆแล้วนั้นอาจจะมากกว่าโหลดเฉพาะการฝึกซ้อมเพียงอย่างเดียว

Polar Vantage V มีสามสี

คอนเซปต์ของ Vantage ทั้ง M และ V คือ การ Optimized

ในสมัยก่อนนั้นเรามักจะเคยได้ยินสมรรถภาพสูงสุด ของนักกีฬา Maximized มาบ้างแล้ว คือเทรนยังไงให้ฟิตในทุกๆด้าน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราพบว่า ถ้าคุณฝึกซ้อมสมรรถภาพทางกายของคุณสูงสุด อย่างหนึ่ง สมรรถภาพทางกายในองค์ประกอบอื่นๆ ก็จะมีแนวโน้มลดลง ดังนั้น การ Optimized นั้นก็คือจุดเหมาะสมที่สุดที่ทำให้สมรรถภาพทางกายในแต่ละด้านส่งผลไปสู่ความสำเร็จนั่นเอง

4 ปีหลังจากที่ V800 ออกสู่ตลาด โพลาร์ใช้เวลา นานมาก หลายคนบอกว่านานเกินไป กว่าจะออก Vantage series ใหม่ออกมา ไม่เหมือนบางยี่ห้อที่ออกมาทุกสามเดือน นั่นเป็นเพราะปรัชญาของทางฟินแลนด์ คือ การพัฒนาเทคโนโลยีที่คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าของคุณ 4 ปี สำหรับบางคนที่ใช้ V800 ก็ถือว่าคุ้มค่ามากครับ สำหรับผมเอง คุ้มมากๆครับ คุณลองจินตนาการถึง Stryd Power Meter ดูก็ได้ครับ แม้ Polar V800 จะออกมาเมื่อสี่ปีที่แล้ว แต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Stryd Power Meter ที่เพิ่งออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แต่ในขณะที่แบรนด์อื่นๆนั้นจะรองรับเจ้า Stryd ในเวอร์ชั่นใหม่ๆ รุ่นใหม่ๆเท่านั้น นั่นหมายความว่าคุณก็จะต้องเสียเงินเพื่อซื้อนาฬิกาใหม่อยู่เรื่อยๆ ซึ่งแตกต่างกับโพลาร์ที่เรือนเดียวคุณจ่ายเงินครั้งเดียวแต่สามารถอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆได้ต่อเนื่องนั่นเอง

การออกแบบ Design

อย่างที่กล่าวไปแล้ว Polar Vantage V นั้นตัวเรือนทำจากสตแนเลส ที่มีความคงทน และพร้อมลุยไปกับคุณทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบา เพื่อไม่ให้ตัวนาฬิกานั้นไปส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของคุณ ปุ่มต่างๆมีการเปลี่ยนดีไซน์ออกไปแต่ฟีเจอร์ของปุ่มต่างๆก็ยังคล้ายคลึงกับปุ่มของ V800 หรือ M430 นั่นเอง ดังนั้นคนที่มใช้ V800 หรือ M430 ถ้าอยากจะลองเปลี่ยนมาใช้ Vantage ก็น่าจะไม่ต้องเริ่มต้นกันใหม่ครับ

Strap ทำจากซิลิโคนซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนสายรัดข้อมือได้ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนมันให้เข้ากับไลฟ์สไตลล์ต่างๆของคุณ ในขณะนี้มีสีดำ แดง ขาว และกำลังจะออก Strap สีอื่นๆมาในเร็วๆนี้

หน้าจอ Touch Screen ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น ในการเลื่อนฟีเจอร์ต่างๆหรือ ค่าที่จำเป็นในการแสดงผลก็สามารถทำได้อย่างทันที สิ่งหนึ่งที่โพลาร์ยังไม่เคยเปลี่ยนนั่นก็คือ กระจก ที่ทนต่อการขีดข่วนและการกระแทก ซึ่งทำให้นาฬิกาของโพลาร์นั้นพร้อมลุยกับทุกสถานการณ์ นอกจากนี้แล้ว หน้าจอแสดงผล LCD นั้นยังสามารถทำการปรับให้แสดงค่าได้อย่างเหมาะสมแต่ละบุคคล โดยทำการตั้งค่าด้วย Polar Flow Account ของคุณ

Profile กีฬาและการฝึกมากกว่า 130 รูปแบบ

โพลาร์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ ได้ร่วมกันศึกษารูปแบบของกีฬามากกว่า 130 ชนิด ทั้งในร่มและกลางแจ้ง คุณจึงใช้งานได้อย่างสะดวกในการแสดงผลข้อมูลในระหว่างการฝึกซ้อม และยังรองรับเซนเซอร์ต่างๆได้อีกมากมาย เช่น เซนเซอร์ในการวัดก้าวในการวิ่ง เซนเซอร์วัดความเร็ว เซนเซอร์วัดรอบขา (จักรยาน) เป็นต้น ซึ่งสามารถส่งข้อมูลไปยังนาฬิกาได้โดยตรง

ความแม่ยำ GPS

ในโพลาร์ Vantage V นั้น ได้ติดตั้งชิพเซต GPS รุ่นพิเศษ ที่รองรับการทำงานในระบบ GPS,A-GPS และ GLONASS ซึ่งเป็นระบบการระบุพิกัดจากดาวเทียมที่ได้รับความนิยม แต่อย่างไรก็ตาม ระบบ GPS นั้นคงจะได้รับการปรับปรุงจากเฟิร์มแวร์รุ่นหลังๆเพื่อเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น อย่างที่ผมเคยเชียนในตอนแรกๆ ว่า ชิพเซ็ตที่แม่นยำในการระบุตำแหน่ง ที่สุดคือ V800,M430 แต่ก็ต้องหลังจากที่ได้รับการปรับปรุงเฟิร์มแวร์แทบทั้งสิ้น การจับสัญญาณ GPS ของ Vantage ทำได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่โล่ง แต่อาจจะช้าบ้างในวันที่บริเวณรอบๆนั้นเต็มไปด้วย ตึก สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่

การวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ข้อมือ

ใน Polar Vantage V มีการใช้ Optode ถึง 9 ดวง ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยวิธีการ Photopletysmogram ทำให้มีพื้นที่ในการวัดเพิ่มมากขึ้น และมีการใช้ระบบสองคลื่นความถี่แสงทั้งแสงสีแดงและเขียว ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เรื่องของความแม่นยำ ของ Wrist Heart rate นั้นหายห่วงอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของ Wrist Heartrate สำหรับการฝึกซ้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงความหนักในการฝึกซ้อมอย่างรวดเร้ว เช่น การฝึกแบบ HIIT การฝึกหนักเป็นช่วงๆ ขอแนะนำให้ท่านใช้สายคาดหน้าอกในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจจะดี และแม่นยำกว่านะครับ

Polar draft
Running Power วัดจากข้อมือ

การวิ่ง

เมื่อกดปุ่มเริ่มต้น Start สีแดงที่ด้านขวาของนาฬิกา นาฬิกาก็จะเริ่มทำการติดต่อไปยังเซนเซอร์ต่อๆที่เชื่อมต่ออยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ และ GPS

Polar Vantage V จุดขายก็คือ Wrist Power Meter หรือระบบวัดพลังในการวิ่งที่ข้อมือนั่นเอง คล้ายกับ Stryd Power Meter หรือ PodRunning ยี่ห้อต่างๆ แต่ส่วนใหญ่แล้ว Pods สำหรับการวิ่งนั้นจะติดบริเวณที่หน้ารองเท้า หรือ บริเวณจุดกึ่งกลางลำตัวแต่ฟีเจอร์การวัดพลังในการวิ่งของโพลาร์นั้น ทำให้ได้ค่าพลังในการวิ่งอย่างแม่ยำแต่ต้องแกว่งแขนแบบธรรมชาติ (Natural Running )  รวมทั้งฝีก้าวในการวิ่ง Cadence แต่เชื่อผมได้เลยฟีเจอร์นี้ในโพลาร์นั้นจะต้องมีอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน นอกจากนี้การวัดพลังในการวิ่งยังเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ในการคำนวณโหลดของการฝึกซ้อมซึ่งในโพลาร์ Vantage มาพร้อมกับ ฟีเจอร์ Training Load Pro ที่แบ่งโหลดออกเป็นสามรูปแบบนั่นก็คือโหลดต่อระบบหัวใจ Cardio Load โหลดต่อระบบกล้ามเนื้อ Muscle Load และโหลดรวมที่เรียกว่าRate Perceived of Exertion บางคนอาจจะรู้จักในชื่อของ RPE ซึงเป็นแบบ SubjectiveTest คือใช้ตัวของเราเป้นการตอบคำถาม เพื่อทำให้ข้อมูลโหลดในการฝึกซ้อมของคุณตรงเป้าหมายมากที่สุดนั่นเอง

ฟีเจอร์สำหรับการฝึกซ้อม

ในโพลาร์ VantageV นั้นสิ่งที่แตกต่างกับPolar Vantage M นั่นก็คือ Training Load Pro และ Recovery Pro ซึ่งถูกออกแบบตามConsensus ในยุโรปว่าด้วยเรื่องของโหลดของนักกีฬานั้นเอง ตัว TrainingLoad Pro นั้น อย่างที่ผมเขียนไปแล้ว โหลดจะแบ่งออกเป็นสามส่วนั่นก็คือ CardioLoad โหลดต่อระบบหัวใจและไหลเวียน ข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณมาจากอัตราการเต้นของหัวใจระยะเวลาในการฝึกซ้อม และแฟคเตอร์ของกีฬา อีกนัยนึงเราเรียกวิธีการวัดแบบนี้ว่า TrainingImpulse (TRIMP method) ช่วยให่คุณสามารถเปรียบเทียบข้อมูลในการฝึกซ้อมในรูปแบบต่างๆได้ บนสเกลเดียวกันวีธีการ วัด Training Impuse นั้นเป็นที่นิยมใช้ในนักกีฬาชั้นนำที่มีรูปแบบการฝึกซ้ามที่หลากหลาย ดังนั้น โพลาร์จึงดึงเอาฟังก์ชั่นนี้มาอยู่ใน PolarVantage V

Muscle Load เป็นการวัดการทำงาน ความเครียดของกล้ามเนื้อ เอาง่ายๆก็คือ วัดว่า ในขณะที่เราฝึกซ้อมนั้น มีการใช้งานของกล้ามเนื้อมากน้อยเพียงใด ข้อมูลที่ได้ก็จะถูกบันทึกและเอามาหาความสัมพันธ์กับ แฟคเตอร์ของกีฬาตามหลักของ TRIMP Method อีกเช่นเดียวกัน คุณจึงสามารถรู้ได้ว่า ในการฝึกของคุณนั้น กล้ามเนื้อมีการใช้งานมากน้อยเพียงใด ยกตัวอย่างเช่น เซสชั่นที่เป็นการฝึกความแข็งแรง Muscle Load ในเซสชั่นนี้ก็จะสูงกว่า CardioLoad ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความอดทน Cardio Load ก็จะมีค่าสูงกว่า Muscle Load

RPE : Rate Percieved of Exrtion เป็นการวัดความเหนื่อยภาพรวม โดยการตอบแบบสอบถาม ซึ่งถ้าหากคุณใช้งาน Polar Vantage V ฟีเจอร์นี้จะเป็นแบบสอบถามขึ้นมาให้คุณตอบภายหลังที่คุณซิงค์ข้อมูลการฝึกซ้อมเข้ากับ Polar Flow แล้วเช่นกัน ซึ่ง RPE นั่นก็คือโหลดรวมทั้งหมดที่คุณสามารถรับรู้ได้ นั่นเอง

ระบบของโพลาร์จะทำการวิเคราะห์โหลดทั้งสามตัวและบอกว่าคุณจะต้องมีการพักมากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะถึงเซสชั่นต่อไป นอกจากนี้ยังแสดงสถานะภายหลังจากการฝึกซ้อมของคุณช่วยให้คุณรักษาระดับของการฝึกซ้อมและการพักผ่อนของคุณได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอ เพราะหัวใจสำคัญของการฝึกซ้อมนั้นไม่ใช่แค่ช่วงฝึกซ้อมเท่านั้นแต่ช่วงที่ร่างกายพัก และฟื้นสภาพ นั้นก็เป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมไม่แพ้กัน…Recovery Pro

สำหรับฟีเจอร์ของ บารอมิเตอร์นั้น

ในรีวิวฉบับนี้ผมยังไม่ขอพูดถึงนะครับ แต่ว่าตัวของ Vantage V นั้นมีการติดตั้งตัวบารอมิเตอร์ไว้ในตัว ซึ่งจะแตกต่างกับ Vantage M นะครับ โดยหลักๆแล้ว หน้าที่ของ บารอมิเตอร์นั้น จะใช้ในการวัดระดับความกดอากาศ อุณหภูมิ และความสูงจากระดับน้ำทะเลนะครับ แต่เดี๋ยวผมจะลงรายละเอียดเมื่อโพลาร์มีการออกฟังก์ชั่นสำหรับ Trail Running ออกมา อุ๊บส์

สำหรับฟีเจอร์อื่นๆใน Polar Vantage V

ก็ยังมีครบ ไม่ว่าจะเป็น Sleep Plus การวัดการนอนหลับพักผ่อนของคุณ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการฟื้นสภาพ การวัดระดับกิจกรรมทางกาย เพื่อดูว่าในแต่ละวันคุณได้รับโหลดต่างๆเท่าไรบ้าง มีช่วงที่ไม่มีกิจกรรมทางกายหรือการเคลื่อนไหวติดต่อกันเกิน 1 ชั่วโมงหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลตท่อประสิทธิภาพในการฝึกซ้อมของคุณแทบทั้งสิ้น สิ่งหนึ่งที่ทำให้โพลาร์แตกต่างกับ แทรคเกอร์ยี่ห้ออื่นๆนั่นก็คือ องค์ความรู้ในการวัดระดับกิจกรรมทางกาย จากประสบการณ์กว่า สี่สิบปีของโพลาร์ การวิจัยและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรื่องของความแม่นยำในการวัดระดับกิจกรรมทางกายนั้นหายห่วงครับ

การทดสอบ Orthostatic Test

สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ Polar Vantage เกือบทุกรุ่นคือ การทดสอบ Orthostatic Test นั่นเองครับ การทดสอบ Orthostatic Test นั้นก็คือการทดสอบสภาวะการฝึกเกิน โดยโปรโตคอลคือ ให้นอนราบสามนาที แล้วบันทึกอัตราการผันแปรของการเต้นของหัวใจ ที่เรียกว่า HRV ครับ จากนั้นเปลี่ยนจากท่านอนเป็นยืนนั่นเองครับ แล้วดูว่า ถ้าเราเกิดสภาวะของการฝึกเกิน ช่วงที่เปลี่ยนระหว่างนอนเป็นยืนจะแตกต่างกับ Baseline ที่เราเก็บเอาไว้ นั่นก็คือ ระบบประสาทที่ทำให้ตืนตัวและ ระบบประสาทที่ทำให้ร่างกายผ่อนคลายทำงานไม่สมดุลกันนั่นเองครับ การทดสอบ Orthostatic Test ต้องใช้ ควบคู่กับสายคาดหน้า อก Polar H10

แบตเตอรรี่

ใน VantageV นั้นแบตเตอรรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเมื่อประจุไฟฟ้าเต็ม ได้ถึง 40 ชั่วโมงโดยไม่ต้องชาร์ตไฟในเพราะการใช้อินทิเกรตชิพเซ็ต และเซนเซอร์ภายในตัว Vantage V นั้นทำให้เกิดการประหยัดพลังงานเป็นอย่างมากนั่นเอง

Integrated Chipset

No Music

สิ่งหนึ่งที่ทำให่โพลาร์ไม่ทำรุ่นที่บรรจุเพลงหรือเล่นเพลงจากนาฬิกาผ่านทางระบบบลูทูธ นั่นก็คือโพลาร์ยังยึดหลักของการฝึกซ้อมแบบเข้มข้น Concentrate Training อยู่นะครับนอกจากนี้ยังมีเรื่องของความปลอดภัยในการฝึกซ้อม นั่นเองอันนี้ลองย้อนไปดูได้นะครับ ว่าในรุ่นที่ผ่านๆมา โพลาร์ไม่เคยมีเรื่อง Musicลงในนาฬิกาเลย

สรุป Vantage V

– Addition of optical heart rate sensor (both for workouts and 24×7 HR)
– Added electronic skin-contact sensor to validate a human is attached to watch
– Added color touchscreen, still retains buttons for all athletic functions
– Changed GPS chipset maker to that of Sony (same as what Suunto 9 did recently)
– Changed max GPS-battery life to 40-hours 1-second recording with optical HR too
– Added running power from the wrist (no sensors required)
– Added new training load metrics (cardio/muscle/perceived stats)
– Added new ‘Recovery Pro’ metrics (daily recovery, training, and balance stats) – requires H10 chest strap.
– Added both segmented real-time and post-processing of optical HR data to fix quirks (I’ll explain later)
– Made watch round, from rectangular shape previously
– The reduced weight of watch from 79g to 66g

ถ้าหากคุณต้องการจะฝึกซ้อมแบบวิทยาศาสตร์ และไม่ต้องนั่งเทียน Polar Vantage V เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการOptimal Training คือเทรนอย่างเหมาะสม ครั้งหนึ่งโพลาร์เคยมีปรัชญาว่า TrainSmart not Harder คือ ฝึกอย่างฉลาดและไม่ต้องฝึกหนักจนเกินไป นั่นเองครับอีกเรื่องนึงที่เห็นคนอินบ็อกซ์เข้ามาหาผมเรื่องบริการหลังการขายผมแนะนำให้ซื้อจากตัวแทนโพลาร์โดยตรงดีกว่า ครับ ถ้าที่เมืองไทย ก็ วีณาสปอร์ตจำกัดนะครับ www.vinasport.co.thนอกจากท่านจะได้รับการบริการหลังการขายที่รวดเร็วแล้วท่านจะได้รับการตอบคำถามโดยทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ โดยตรงแล้วท่านจะไม่ผิดหวังเชื่อผม

อ่านเพิ่มเติม