ทำไมคุณถึงต้องการมากกว่าความแข็งแรง

ความแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญในการออกกำลังกายและการฝึกซ้อมกีฬา การฝึกความแข็งแรงนั้นจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญสำหรับการลดน้ำหนักอีกด้วย

แต่การฝึกความแข็งแรงนั้น มันมีมากกว่าการยกน้ำหนัก หรือการฝึกด้วยแรงต้านเท่านั้น สำหรับการฝึกในแต่ละสัปดาห์ของคุณ

เราได้ทำการสนทนาการ Fatima Witick ฟิตเนสเทรนเนอร์และ ครูสอนเต้น จาก เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 34 ปี  ในวงการธุรกิจฟิตเนส เธอสอนการเต้นบัลเลต์ โยคะ พิลาทิส และ คลาสออกกำลังกายต่างๆมากมาย และช่วยเหลือ บรรดานักเรียนของเธอกว่าพันคน

การทำงานของร่างกายนั้น ต้องการความแข็งแรง และ พื้นที่อื่นๆ (เช่นความอ่อนตัว ความมั่นคงของข้อต่อ)

เธอให้เหตุผลถึงมุมมองความแข็งแรงและพลังว่า นอกจากจะมีการฝึกความแข็งแรงและพลังแล้ว ยังต้องหาพื้นที่ว่างอื่นๆ ให้กับความอ่อนตัว การพัฒนาการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ROM โฟกัสที่การทำงาน และการเคลื่อนไหว และเพิ่มการทำงานให้กับกล้ามเนื้อ การทำงานของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น ถ้าหากขาดซึ่งการพัฒนาฟังก์ชั่นการทำงานของกล้ามเนื้อแล้ว กล้ามเนื้อและกระดูกก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างเหมาะสม การฝึกความแข็งแรงนั้น คุณสามารถทำได้ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ที่บ้าน หรือที่ยิมด้วยการออกกำลังกายด้วยกับอุปกรณ์เวทของคุณ การออกกำลังกายด้วยฟรีเวท และ คลาสในการออกกำลังกายต่างๆ

คุณต้องการกล้ามเนื้อที่ดูดี หรือ ความแข็งแรงในชีวิตประจำวัน

การฝึกความแข็งแรงนั้นเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ป้องกันอาการบาดเจ็บจากการใช้งานมากเกินไป และความเมื่อยล้า สิ่งที่จะต้องคำนึงอีกประการนั้นก็คือ ความสมดุลระหว่างการฝึกความแข็งแรง (ความแข็งแรง,พลังสูงสุด,ความเร็ว และอื่นๆ) เพื่อที่จะทำให้เกิดการฝึกที่เป็นกิจวัตร

สิงที่ดีมากจนเกินไปอาจจะกลับกลายเป็นสิ่งที่แย่ไปเลยสำหรับคุณก็ได้ เช่น การฝึกความแข็งแรงอย่างผิดๆโดยทั่วไปแล้วคนส่วนมากจะโฟกัสไปที่ขนาดของกล้ามเนื้อ แทนที่จะเน้นในเรื่องการทำงานของกล้ามเนื้อ ผู้ชายหลายคนเข้ามาฝึกซ้อมภายในยิมและฝึกซ้อมเพียงแค่ไม่กี่กลุ่มกล้ามเนื้อ และพวกเขาเหล่านั้นก็บาดเจ็บที่หัวไหล่ มีปัญหาที่หลัง และมีปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่า ในผู้หญิงก็เช่นเดียวกับผู้ชาย Wittick กล่าว

เทคนิคคือหัวใจสำคัญสำหรับทุกการออกกำลังกาย

สำหรับคนที่ชอบนั่งอยู่กับโต๊ะทำงานเป็นเวลานาน มักจะเกิดปัญหาของกล้ามเนื้อที่แข็งแรงไม่เท่ากัน  ดังนั้นการฝึกความแข็งแรง จะสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีได้นั้น คุณจะต้องโฟกัสที่รูปร่าง ความสมมาตร และการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ได้อย่างหลายรูปแบบ ไม่เฉพาะการฝึกโยคะหรือการวิ่งเทรลเท่านั้น แต่หมายถึงการออกกำลังกายทุกประเภท ที่มีเทคนิคที่ถูกต้อง  จากนั้นคุณก็จะต้องให้เวลากับการพักผ่อน สำหรับทุกวันและ วันที่คุณพักด้วยเช่นกัน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การบริโภคอาหารอย่างเหมาะสม และถูกต้องตามหลักโภชนาการ รวมทั้งการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้คุณมีการพัฒนาของสมรรถภาพและสุขภาพในทางที่ดี

ระหว่างความแข็งแรง และความยืดหยุ่น สิ่งไหนดีกว่างกัน

Wiitck บอกว่า แน่นอนคนที่แข็งแรงและข้อต่อที่มั่นคงก็ย่อมดีกว่าคนที่ไม่แข็งแรงและข้อต่อไม่มั่นคง โดยปกติแล้ว ความสมดุลระหว่างความแข็งแรง และ ความอ่อนตัว มีมุมการเคลื่อนไหวของข้อต่อที่มาก มีรูปร่างที่ดีและสมส่วน ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการมีชีวิตที่ยืนยาว และการมีสุขภาพที่ดี ดังนั้น ไม่ควรโฟกัสที่ความแข็งแรงเพียงอย่างเดียว ย้อนกลับมาที่การรักษาสมดุลระหว่างความแข็งแรงและพื้นที่ว่างอื่นๆได้อย่างเหมาะสม